วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ตัดใจให้ขาด

เคยทวิตเรื่องตัดใจ - ปล่อยมือจากรัก หลายคนอยากอ่านแต่หาไม่เจอ เลยเอามาเรียบเรียงและเพิ่มเติมบางประเด็น ให้อ่านกันใหม่อีกรอบ

เหตุให้ต้องตัดใจจากรักมีได้หลายอย่าง เราเลิกรัก คสพ.ทำให้ทุกข์และกลายเป็นการทำร้ายกันไปมาระหว่างคนรัก หรือคนรักอยากเดินจากไป ฯลฯ

การตัดคสพ.ไม่ง่าย แม้เมื่อเราเป็นฝ่ายอยากเดินจากไป ความเคยชินและความผูกพันเดิมหลายเรื่องยังอยู่ หลายคนใช้วิธีเดินหนีไปโดยไม่บอกเลิก

กระบวนการตัดใจมักยืดเยื้อเรื้อรัง เต็มไปด้วยอาการโหยหาและใจจะขาดเพราะเสียเธอไปของฝ่ายที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังเมื่อคนรักเดินจากไป

การตัดใจจากคนที่รักไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้ายังโกรธและน้อยใจเพราะการกระทำของคนนั้นแปลว่ายังตัดไม่ขาด และคนนั้นยังครองที่ในใจของเราอยู่

บางคนตัดใจจากคนรักโดยวิ่งเข้าสู่ความสัมพันธ์ใหม่เพื่อการฟื้นสภาพจิตใจ เพื่อจะเจอปัญหาใหม่และทำร้ายใจคนเพิ่มขึ้นอีกคนเพราะไม่ได้รัก

หลายคนตัดใจโดยทำให้คนรักกลายเป็นปีศาจอมนุษย์ เพ่งมองไปที่แง่มุมร้ายๆ และขยายให้เลวร้ายกว่าที่เขาเป็น คิดว่าความเกลียดจะทำให้เลิกรัก

ความพยายามเกลียดคนรักทำให้ยิ่งหมกมุ่นคิดถึงสิ่งที่เขาเป็นและเคยทำ กลายเป็นทำร้ายตัวเองโดยการมองแต่แง่ร้าย เคียดแค้นและไม่ปล่อยวาง

การตัดใจให้ขาดไม่ใช่การรอให้คนรักออกไปจากชีวิต แต่น่าจะเป็นการหันหลังเดินจากมา แม้ว่าจะเกิดอาการลังเลก้าวเดินไม่ออกอยู่ช่วงหนึ่ง 

สัญญาณของการตัดใจไม่ขาด คือการกระทำหรือคำพูดของคนๆ นั้นยังทำให้น้อยใจและเจ็บจี๊ดได้ อย่าจิตตก ซึมซับความเจ็บและตัดใจต่อไป 

การมองส่วนดีและไม่ดีของคนรักที่ทำให้ทุกข์และสุข  ยอมรับปัญหา ถึงเวลาต้องเดินจากไปเพื่อจะได้ไม่ต้องทำร้ายกันต่อไปอาจช่วยให้ตัดใจได้

ตัวช่วยสำคัญในกระบวนการตัดใจที่ต้องใช้เวลาและแรงใจ คือมิตรภาพของเพื่อนที่ห่วงใย ให้เวลากับเรา รับฟังและร่วมทุกข์จะช่วยให้ผ่านไปได้ 

การตัดใจยากลำบากไม่ได้แปลว่าเราอ่อนแอ แต่เป็นอาการของมนุษย์ที่รักไม่เป็นดังใจ ขอเป็นกำลังใจให้คนกำลังตัดใจทุกคนค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

หึงคนที่ไม่รัก?

คำถามของ @Oh_Na_Lin: แปลกจริงๆคะ หนูคิดว่าหนูหึง คนที่หนูไม่รู้ว่าหนูชอบเขาหรือเปล่า? คือหนูยังไม่แน่ใจว่าชอบพี่เขาหรือเปล่า แต่วันนี้หนูเจอพี่เขาคุยกะแฟนเก่า เลยรู้สึกแปลกๆหูอื้อ ตาลายเลยคะ

เราหึงคนที่เราไม่แน่ใจว่ารักชอบได้ไหม? อาการเหมือนหึงหวงทั้งที่ยังไม่ชัดเจนนั้นคืออะไร ถ้าดูหนังละครโรแมนติคทั้งหลาย อะไรประมาณนี้จะเป็นฉากที่ให้สะท้อนความในใจของพระเอก-นางเอกว่าที่คิดว่าไม่รักนั้น “แท้ที่จริงก็รักเธอ” แล้วก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่ความสัมพันธ์แบบ happy ending ที่หลายคนซาบซึ้ง

อาการหึงหวงถูกมองเป็นสัญญานว่าเราคงต้องรักคนที่เราหึงเป็นแน่แท้ การสรุปแบบนี้ทั้งใช่และไม่ใช่??

ความรู้สึกรัก-ไม่รักไม่น่าจะเป็นอะไรที่แบ่งได้ง่าย ๆ เป็นขาวเป็นดำ ในแต่ละเวลาความรู้สึกของแต่ละคนอาจจะอยู่ตรงจุดใดจุดหนึ่งระหว่างรัก-ไม่รักก็เป็นได้ เหตุการณ์บางอย่างทำให้หลายคนกระโดดไปที่ขั้วใดขั้วหนึ่งของรัก-ไม่รักทันที เพราะคิดว่าอารมณ์แบบนี้แยกขาดจากกันเด็ดขาด
เช่นการถูกทดสอบโดยมีคนอื่นโผล่เข้ามาขวางระหว่างเรากับคนที่เล็ง ทำให้หลายคนด่วนตัดสินใจไปในทางใดทางหนึ่งเพราะหึงหวง

ในหลายเวลาเราอาจจะยังไม่ได้รัก แต่พึงใจ อยากรู้จักให้มากขึ้น อยากทดสอบว่าจะไปกันได้ไหม ก่อนจะยกระดับความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดขึ้น

คนที่อยู่ในขั้นนี้อาจจะหึง-หวงคนที่ตัวเองพึงใจได้ เพราะอยากพินิจพิจารณาคนนี้โดยไม่มีคนอื่นมาแย่งมองแย่งดูด้วย เพราะกลัวว่าถ้าวันหนึ่งจะยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นมาอาจต้องรับประทานแห้ว เพราะคนอื่นมาแย่งไป คล้าย ๆ กับหึงเผื่ออนาคต

บางคนหึง เพราะหวงความสนใจที่คนที่เล็งอยู่มีให้ตัวเองแบบเต็มร้อย ไม่อยากแบ่งปันความสนใจนั้นให้คนอื่น อยากจะให้โลกนี้มีเพียงเรากับเขายืนจ้องกันไปมาอย่างหวานชื่น ถ้าเขาต้องหันไปมองทางอื่นด้วยก็โกรธเคือง

และก็เป็นไปได้อีกเช่นกันว่าหึงเพราะหวงคน ไม่อยากเสียเขาหรือเธอไปให้คนอื่น
ความหึงในเวลาที่ยังไม่ได้รักปักใจ อาจจะเป็นเพราะหวงความสนใจ หวงคน หวงความเป็นไปได้ในอนาคต

ไม่ว่าจะหึงเพราะอะไร ปัญหาของการหึง-หวงในระยะที่ยังไม่แน่ใจว่ารักหรือไม่ ทำให้หลายคนคิดว่าถ้าหึงก็แปลว่ารักแล้ว หรือไม่ก็กลัวจะเสียคนที่เล็งไปให้คนอื่น เลยรีบยกระดับความสัมพันธ์ตัดหน้าคนที่เห็นเป็นคู่แข่งทันที

การรีบยกระดับความสัมพันธ์ของหลายคน ไม่ได้ตามมาด้วยการทำงานกับความสัมพันธ์ด้วยการเรียนรู้กันและกัน การปรับตัว ปรับความคาดหวัง และปรับวิถีชีวิต เลยทำให้ต้องปวดหัวมากบ้างน้อยบ้างต่างกันไป

น่าจะลองถามตัวเองดี ๆ ว่าต้องการอะไร และยินดีจะลงแรงกาย-ใจกับการสร้างความสัมพันธ์ไหม ก่อนจะคิดต่อไปว่าจะทำอย่างไรกับความหึงของตัวเองดี

วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิงชื่อ "ยิ่งลักษณ์"

ดูรายงานเรื่องนายกหญิงใน แล้วเคลื่อนไปจากที่อยากสื่ออยู่มาก ประเด็นที่น่าคิดตอนนี้คือมีนายกเป็นผู้หญิงแล้วสังคมไทย/ผู้หญิงไทยได้อะไร


เราคาดหวังนายกหญิงให้จัดการกับความขัดแย้งยืดเยื้อและกระบวนการปรองดองให้ปรากฏเป็นจริง จัดการปัญหาเศรษฐกิจ และใส่ใจนโยบายผู้หญิง


ความขัดแย้งยืดเยื้อบดบังนโยบายอื่น องค์กรผู้หญิงที่คาดหวังจากนายกหญิงอาจต้องอกหักเพราะนโยบายผู้หญิงไม่ถูกมองเป็นเรื่องเร่งด่วน


การทำให้กระบวนการปรองดองปรากฏเป็นจริงต้องอาศัยความกล้าหาญและเจตนารมย์ที่แน่วแน่ นักเลือกตั้งทั่วไปไม่ค่อยมี? แล้วยิ่งลักษณ์มีไหม?


หลายคนไม่แน่ใจยิ่งลักษณ์เพราะเธอมาเร็ว น่าเป็นห่วงว่าจะจัดการกับการเมืองในพรรคและระบบราชการไม่ได้เอง การมีนามสกุลชินวัตรทำให้บางคนไม่วางใจ


ยิ่งลักษณ์ต้องทำให้คนไทยเห็นว่าเธอเป็นนายกของ "เรา" ทุกคน ไม่ใช่นายกเฉพาะกิจหรือของคนบางกลุ่ม ช่วง honeymoon period ไม่มีหรือสั้นมากๆๆ


ภาระ ปัญหา และสถานการณ์ทางการเมือง ไม่เอื้อต่อการปรับตัวของนายกมือใหม่ ที่กลายเป็นตัวแทนทดสอบความสามารถของคนเพศสภาพหญิงไทยทั้งหมดไปด้วย


หลายเรื่องที่รุมเร้าผู้ใช้อำนาจรัฐ ทำให้หลายคนเป็นห่วงว่าที่นายกยิ่งลักษณ์ และกังวลว่าอะไรจะเกิดขึ้นในการเมืองไทยในอนาคตอันใกล้นี้


ผู้หญิงก้าวขึ้นเป็นนายกโดยโยงใยกับชายผู้มีอำนาจ ในสถานการณ์ยากลำบาก แถมถูกมองเป็นตัวบ่งชี้ความสามารถของผู้หญิงไทย หนักหน่วงไม่น้อย ขอแสดงความเห็นใจไม่ว่าจะต้องการหรือไม่