วันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เลือดแลกรัก


หลังจาก tweet ประเด็นการทำร้ายตัวเองเพราะรักและ “เลือดแลกรักไม่ได้” ไป มีเพื่อนทวิตภพถามเข้ามาว่า

@cevil2prance: คนที่คิดหรือกำลังทำร้ายตัวเองแบบนี้ควรแก้ยังไงครับ

ขอตอบยาวชวนคิดดังนี้....

คนไม่น้อยทำร้าย/ทำลายตัวเองเพราะผิดหวังในรัก เช่นกรณีคนที่รักไม่รักตอบ หรือคนเคยรักแต่หมดรักไป การทำร้ายตัวเองเป็นไปเพื่อสื่อสารให้โลก (โดยเฉพาะคนรัก) รู้ถึงความเจ็บปวดทุกข์ใจเมื่อรักไม่สมหวัง และแสดงออกถึงความรักท่วมท้นว่าอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคนที่รักอยู่ในชีวิต ประมาณว่า “เห็นไหมว่าฉันรักเธอมากมายแค่ไหน ทำไมเธอไม่สนใจ ไม่หันมามอง และไม่ให้ค่ากับรักของฉันบ้าง”

ความรุนแรงต่อตัวเองเพราะความรักในหลายกรณีเป็นความพยายามจะเปลี่ยนใจคนรัก ให้รับรักหรือกลับมาอยู่ในความสัมพันธ์ด้วยกันเหมือนเดิม

ใครกำลังอยู่ในสถานการณ์ประมาณนี้ มีคำถามและแง่มุมชวนคิดต่อไปด้วยกัน

ถ้าการทำร้ายตัวเองเป็นไปเพื่อแสดงให้คนรักรับรู้ถึงความรักและความทุกข์ใจ ขอให้ถามตัวเองว่าทำไปแล้วคนรักได้รับรู้อย่างที่เราอยากให้เขารู้ไหม หรือเราจะกลายเป็นไอ้บ้า/อีบ้าที่น่ารำคาญในระดับที่เพิ่มขึ้นจากความรำคาญที่มีอยู่ก่อนแล้ว

แนวโน้มคือการทำร้ายตัวเองมักจะไม่ถูกคนรักมองเห็นอย่างที่คนทำอยากให้เห็นนัก เพราะในขณะที่ความรักบังตาให้เห็นแต่มุมบวกของคนที่รัก ความไม่รักก็บังตาให้เห็นแต่มุมน่าเบื่อน่ารำคาญของคนที่เราไม่รักเหมือนกัน

โอกาสที่การทำร้ายตัวเองประชดรักจะจบลงด้วยการเจ็บตัวฟรีจึงสูงมาก เพราะมักกลายเป็นการกระตุ้มต่อมรำคาญจนพาลเกลียดในคนที่เรารักเสียมากกว่า

แล้วการทำร้ายตัวเองเปลี่ยนใจคนรักให้รักหรือกลับมารักเราได้หรือไม่

ที่น่าเศร้าคือการทำร้ายตัวเองอาจทำให้คนรักใจอ่อนบางคนสงสารว่าได้ทำให้คนที่ตัวเองไม่รักต้องทำเช่นนั้น และสำนึกผิดมากบ้างน้อยบ้าง แต่ความสงสารและสำนึกผิดก็ไม่ใช่ความรักอย่างที่เราต้องการอยู่ดี และไม่มีแรงยึดเหนี่ยวให้คนที่ไม่รักเราอยู่กับเราได้

การพยายามหลอนคนที่ไม่รักเราให้ผวาว่าเราจะทำร้ายตัวเองอีก อาจทำให้ไฟเกลียดลุกโชนขึ้นแทน

สรุปคือ คนมากมายไม่ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการจากคนรักด้วยการทำร้ายตัวเอง การทำร้ายตัวเองไม่ทำให้รักเกิดแต่มักดับความรู้สึกดี ๆ ที่อาจจะมีอยู่บ้างลง และทำให้ความกลัว ความเกลียดเข้าแทนที

ถ้าเช่นนั้นจะทำเช่นไรดี

น่าจะเริ่มจากการยอมรับว่าการไม่สมใจในรักเป็นความทุกข์ ทำให้เราเจ็บปวด ความเจ็บนั้นเป็นของเรา อยู่ในใจเรา ต้องจัดการกับใจเราที่เจ็บ การจัดการนี้ใช้เวลา

เมื่อเห็นตัวเองและเห็นความเจ็บแล้ว ลองคิดต่อว่ามุมมองของเราตอนนี้คืออะไร เป็นไปได้ไหมว่าเรา “จับจ้อง” มองเห็นแต่คนที่เรารักราวกับเขาเป็นศูนย์กลางของจักรวาล การจับจ้องนั้นทำให้เรามองไม่เห็นโยงใยความรักความสัมพันธ์อีกมากมายหลายรูปแบบที่ยึดโยงร้อยรัดเราไว้กับโลก และทำให้เราเป็นเรา

ลองเปลี่ยนมุมที่มองไปแม้เพียงเล็กน้อย จะเห็นคนที่รักและเป็นห่วงเราในระดับต่าง ๆ มากมาย คนที่กังวลกับความโศกเศร้าของเราแต่เรามองไม่เห็นเพราะมัวแต่จดจ่อกับคนรัก คนที่พร้อมจะเป็นเพื่อนทุกข์รับฟังปัญหาและทำกิจกรรมคลายโศกร่วมกับเรา ลากเราให้หลุดพ้นจากห้วงทุกข์

คนเหล่านั้นอาจหมายถึง พ่อแม่ พี่น้อง เครือญาติ และเพื่อนฝูง ลองหันไปมองเขาบ้าง แล้วจะพบมือมากมายที่พร้อมจะฉุดเราให้ลุกขึ้นยืนหรือโอบกอดปลุกปลอบให้คลายเศร้า

(เพื่อนคนหนึ่งเล่าว่า เธอเคยทุกข์สาหัสเพราะคนรักทิ้งไป คืนหนึ่งเธอตัดสินใจฆ่าตัวตาย ณ เวลาที่กำลังจะใช้มีดกรีดเส้นเลือดที่ข้อมือ เธอนึกถึงครูคนหนึ่งที่รักเธอนักว่าจะรู้สึกอย่างไรเมื่อพบว่าเธอฆ่าตัวตาย วูบคิดนั้นทำให้เธอเปลี่ยนใจได้)

ระบายทุกข์ในใจกับคนในแวดวงที่มีความหมายและเห็นเรามีความหมาย ทุกคนคงไม่เข้าใจเราไปหมดทุกเรื่อง แต่พร้อมจะฟังและปลุกปลอบในบางเรื่อง บางคนรับฟังได้ทุกเรื่อง

เอาความทุกข์เพราะรักไปโยนใส่คนอื่นตลอดเวลาก็ไม่เวิร์คในระยะยาว เพราะตัวเราจะวนอยู่กับทุกข์นั้น และคนที่ช่วยกันประคองเราจะเหนื่อยอ่อน ลองดึงใจเราออกจากทุกข์นั้นหันไปใส่ใจกับเรื่องอื่นบ้าง เช่นทำอะไรสนุก ๆ ตามรสนิยม

ลองใช้เวลาทำสิ่งที่เราเพลิดเพลินกับคนรอบตัวที่แคร์เราเหล่านี้ สักพักจะพบว่าความสนุกสนานเบิกบานในชีวิตไม่ได้มาจากการมีคนรักแต่เพียงอย่างเดียว

ทำมาเรื่อย ๆ ดังนี้จะพบว่าการมองโลกของเราจะเริ่ม “กว้าง” ขึ้น จากที่จดจ่ออยู่กับคนคนเดียว และความเจ็บปวดชุดเดียว เราเริ่มเห็นคนอื่นที่มีความหมายในชีวิตเรา และอย่างอื่นที่ทำให้เราเป็นสุขได้

บางคนอาจจะเริ่มมองให้กว้างออกไปอีก จะเห็นคนและสัตว์โลกที่ทุกข์ยากลำบากด้วยเรื่องต่าง ๆ ลองสละเวลาจากงานที่ทำหรือการคิดหมกมุ่นกับทกุข์ของตัวเอง ให้ความช่วยเหลือเท่าที่เราจะทำได้ การถามทุกข์สุข ช่วยเช็ดน้ำตาของคนอื่น ทำอะไรให้คนอื่นบ้างเท่าที่เราจะทำได้ ช่วยลดทุกข์ในใจลงได้ เพราะเริ่มตาสว่างว่าเราไม่ได้ทุกข์อยู่คนเดียวในโลก

หลายคนที่ทนอ่านมาถึงบันทัดนี้อาจท้อถอยว่าทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลา อย่าลืมว่าทุกข์เพราะรักเป็นปมซับซ้อนที่เราเอาใจเราไปผูกไว้เอง กว่าจะคลายได้โดยไม่ติดค้างใช้เวลาเสมอ และเมื่อเดินผ่านมาได้จะรู้กสึกดีกับตัวเองและญาติมิตรรอบข้างที่ยืนเคียงข้างเราไม่หนีหาย

คนที่ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์นี้เอง แต่มีเพื่อนหรือคนรู้จักที่กำลังทุกข์เพราะรัก โปรดเข้าใจว่าเขาทุกข์ การช่วยรับฟังและทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อความเพลิดเพลินและให้เขาเห็นโลกในมุมอื่น ทำให้เขารู้ว่ามีคนที่แคร์เขา น่าจะเป็นพลังเสริมให้เพื่อนทีทุกข์เพราะรักรู้สึกดีขึ้นได้บ้าง
มิตรภาพช่วยคลายทุกข์เพราะรักได้เสมอ

ทุกข์เพราะรักเป็นเรื่องยากเย็นสาหัสเพราะใกล้ใจ แต่ก็ไม่เคยทำให้ใครตายเหมือนอุบัติภัยและโรคร้าย ที่ตายเพราะรักมักทำให้ตัวเองตายเอง เพื่อจะรู้ว่าตายไปความเจ็บก็ไม่จบ และเลือดเนื้อชีวิตที่ทุ่มให้ก็ไม่ได้ทำให้ได้ในสิ่งที่อยากได้อยู่ดี

ลองเอาชนะความเจ็บและความทุกข์นี้โดยอาศัยใจเราและการสนับสนุนของคนรอบข้าง แล้วจะพบว่าเรามีพลังทำอะไรได้มากมายนัก