วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ผู้หญิงในการเมือง -- นักเลือกตั้งกับแม่ยกการเมือง

นักการเมืองหญิงถูกคาดหวังให้เป็นตัวแทนผู้หญิง เพียงเพราะมีเพศสภาพหญิงเลยถูกทึกทักว่าต้องรู้ เข้าใจและใส่ใจประเด็นผู้หญิง

ดูเหมือนคนจะไม่ชอบนักการเมืองหญิงที่ไม่รู้เรื่องผู้หญิง แต่ก็ไม่ชอบนักการเมืองหญิงที่พูดแต่เรื่องผู้หญิง เรียกร้องให้ทำอะไรได้หลายอย่าง

นักเลือกตั้งหญิงถูกคาดหวังให้เป็นตัวแทนประชาชนและเป็นตัวแทนของผู้หญิง บางคนทำได้ บางคนเป็นไม่ได้ทั้งสองอย่าง

นักเลือกตั้งหญิงอาจเลือกใช้ประเด็นผู้หญิงในแนวสงเคราะห์สร้างฐานและความเชื่อถือทางการเมือง แต่ไม่ได้พยายามเข้าใจประเด็นจริงจังก็เป็นได้

การเข้าใจประเด็นเฉพาะในสังคมต้องอาศัยการติดตามและศึกษา การผลักดันนโยบายต้องอาศัยความเข้าใจการเชื่อมโยงและลำดับความสำคัญของประเด็นต่าง ๆ

ถามนักเลือกตั้งหญิงในประเด็นผู้หญิง อาจได้เห็นการให้ข้อมูลหรือการดำน้ำแง่มุมต่างๆของชีวิตผู้หญิงอย่างพิสดารขึ้นอยู่กับฐานความรู้ของแต่ละคน

เมื่อถามประเด็นเดี่ยว นักเลือกตั้งตอบแนวคิด นโยบายเหมือนให้ความสำคัญกับเรื่องนั้นมาก แต่เรื่องนั้นอาจไม่ออกเป็นนโยบายหรือไม่มีผลในทางปฏิบัติ

การตอบประเด็นนโยบายแต่ไม่ทำ นอกจากจะเป็นการเบี้ยวแบบตรงไปตรงมาของนักเลือกตั้งแล้ว อาจเป็นผลของการจัดลำดับความสำคัญของประเด็นนโยบายด้วย

พรรคการเมืองอาจคิดประเด็นผู้หญิงมากน้อยต่างกัน แต่ไม่ได้จัดประเด็นผู้หญิงเป็นอันดับต้นของนโยบาย มีเรื่องอื่นสำคัญกว่า

การซักถามนักเลือกตั้งหญิงเกี่ยวกับประเด็นผู้หญิงไม่พอ ต้องให้เธอจัดให้เห็นว่าประเด็นผู้หญิงอยู่ลำดับไหนหรือไม่อยู่ในสายตาของพรรคที่เธอสังกัด

ประเด็นผู้หญิงอาจไม่ได้ถูกเห็นเป็นเรื่องใหญ่ในสังคม เห็นเป็นประเด็นซ๊อฟต์ๆ ไม่เร่งด่วนขอขาดบาดตาย ทนกันไปก่อนได้

ประเด็นผู้หญิงเกี่ยวข้องกับความยากจน ปากท้อง ความปลอดภัย และการเลี้ยงดูกล่อมเกลาอนาคตของชาติ ไม่น่า soft นัก? ที่เห็นว่า soft เพราะไม่ใส่ใจ?

ผู้หญิงในรัฐไทยอาจเป็นเพียงฐานเสียง แต่ไม่ได้เป็นฐานนโยบาย ประเด็นผู้หญิงจึงไม่ได้ถูกผลักดันในการเมืองของนักเลือกตั้งอย่างจริงจังนัก


ผู้หญิงไทยกลายเป็นแม่ยกนักเลือกตั้ง อุ้มเธอและเขาเข้าสภา แต่ไม่ได้อยู่ในสายตาในการผลักดันนโยบาย 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น