วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

สละรักเพื่อเพื่อน? ทำอย่างไรเมื่อเรากับเพื่อนรักคนคนเดียวกัน

คำถาม "การรักคน คนเดียวกันของเพื่อน2คน ควรจะมีคนเลือกถอยไปเจ็บคนเดียวเพื่อความสงบหรือเปล่าครับ?" #ทวิตรักนอกรอบ (ตัดชื่อออกเพื่อให้คนถามสบายใจ)

ลองโยนคำถามนี้ผ่าน Twitter ปรากฏว่าหลายคนพร้อมจะฟันธงอย่างรวดเร็วว่าควรจะทำอย่างไร สูตรสำเร็จของหลายคนคือยอมสละให้เพื่อน เก็บงำความรักความเจ็บไว้คนเดียว

อดสงสัยไม่ได้ว่า ถ้าการถอยหรือปล่อยมือเพื่อเพื่อนเมื่อตกหลุมรักคน ๆ เดียวกับที่เพื่อนรัก คือคำตอบสำเร็จรูปที่พึงทำและเป็นคำตอบที่เวิร์คจริง ทำไมคนรุ่นแล้วรุ่นเล่าจึงวนเวียนอยู่กับคำถามเดิม ๆ นี้

เพื่อนรักไปหลงรักคนเดียวกัน เผชิญความไม่แน่นอนด้วยกันทั้งคู่ เพราะไม่รู้ว่าคนที่ต่างฝ่ายต่างไปรักจะรักใครตอบ หรือจะร่วมกันกินแห้ว คำถามก็คือถ้าอะไร ๆ ก็ไม่แน่นอนแล้วจะถอยทำไมเพราะอะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้

หรือแท้ที่จริงสถานการณ์ที่ดูเหมือนรักสามเส้านี้ยุ่งยากซับซ้อนกว่าที่เข้าใจกัน เพราะการซ้อนกันไปมาระหว่างมิตรภาพและการตกหลุมรัก ทดสอบหลายเรื่องที่มีค่าในชีวิตของเราพร้อมกัน

การตกหลุมรักมีความเสี่ยงว่าคนที่เรารักจะรักตอบไหม ถ้าสมหวัง (คือเขารักตอบ) ความสัมพันธ์อาจจะดีก็ได้ไม่ดีก็ได้ ไม่มีอะไรทำให้มั่นใจได้เต็มร้อย คงเพราะอย่างนี้ทุกขั้นตอนของการเริ่มรักไปจนถึงเลิกรักจึงเต็มไปด้วยความเครียดของคนที่เผชิญหน้ากับความคลุมเครือและไม่แน่นอนหลายต่อหลายเรื่องต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน

การจัดการกับความรักและความรู้สึกรักจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยพลังภายนอกภายในมากมายที่หลายคนไม่รู้ตัว

ถ้าการตกหลุมรักมีการแข่งขันแย่งชิงให้ได้มาเป็นองค์ประกอบ หลายคนยอมถอยเพราะเกรงว่าการแข่งขันนั้นจะกระทบอะไรต่ออะไรอีกมากมายในชีวิตที่มีผลต่อการอยู่ดีมีสุขของเราเอง เช่นการแย่งแฟน (โดยเฉพาะแย่งสามีหรือภรรยาชาวบ้าน) คนอื่นอาจทำให้โดนรุมประณามมากบ้างน้อยบ้างจนเน่าและเฉาได้

การแย่งชิงคนรักระหว่างเพื่อนยิ่งมีราคาทางใจและทางสังคมที่แพงแสนแพง

หลายคนถอยเพราะอึดอัดที่ต้องแข่งขันแย่งชิงกับเพื่อน ถ้าบังเอิญชนะก็อึดอัดหวาดกลัวว่าเพื่อนจะเสียใจ รับไม่ได้จนกระทบมิตรภาพที่มีคุณค่าในใจเรา ถ้าบังเอิญเป็นฝ่ายพ่ายแพ้แก่เพื่อนก็ไม่แน่ใจว่าจะรับมือกับความผิดหวังได้อย่างไร จะยังมีสติพอจะเข้าใจและเคารพการเลือกของคนรักที่เลือกเพื่อนไม่เลือกเราไหม หรือจะพาลโทษโกรษเพื่อนเพื่อลดทอนความรู้สึกเจ็บลึกให้เบาลง

บางทีเรารู้อยู่ลึก ๆ ว่าเหตุผลจะไม่ทำงานในสถานการณ์สมรักและผิดหวัง เราจึงไม่ยอมเปิดศึกสองด้านโดยการเผชิญหน้ากับบททดสอบว่าด้วยความรักและมิตรภาพไปพร้อมกัน

เป็นไปได้อีกเช่นกันว่าเราตระหนักถึงอารมณ์ความรู้สึกของคนที่เราเห็นว่าสำคัญในชีวิต เราจึงไม่อยากจะสมหวังหรือผิดหวังเพราะเกรงจะเป็นการทำร้ายเพื่อน

แง่มุมความเอื้ออาทรที่ถ่วงดุลเหตุผลและการฟาดฟันเพื่อเอาชนะที่ประกอบกันขึ้นเป็นตัวเรานี้เอง ทำให้คนจำนวนไม่น้อยดูน่ารักและน่าสงสารไปพร้อมกัน

แต่การยอมถอยเพื่อเพื่อนก็ไม่น่าจะเป็นคำตอบสำเร็จรูปที่เหมาะกับทุกคน ทางเลือกที่ดีที่สุดของแต่ละคนน่าจะมาจากการใคร่ครวญว่าเราอยากจะให้คุณค่ากับอะไรและสละอะไรในแต่ละช่วงเวลาของชีวิต และพร้อมจะรับผลระยะสั้นและระยะยาวของการเลือกนั้นอย่างกล้าหาญมากกว่า

แปลว่าบางคนอาจเลือกคนที่รักมากกว่าจะถนอมใจเพื่อน เพราะเชื่อว่าคนที่รักคือคนที่ใช่ ถ้าจะเลือกเช่นนี้ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงที่คนรักอาจจะแปรเปลี่ยนเป็นอะไรที่ไม่ใช่ และการโกรธเคืองสุด ๆ ของเพื่อนที่ทำใจไม่ได้เมื่อช้ำรัก

ปัญหาคือหลายคนไม่อยากเลือกเพราะกลัวผลของการเลือก เลยยอมจะอยู่กับความอึดอัดเพราะการไม่เลือกหรือถอยทันทีโดยไม่ใคร่ครวญ โดยไม่รู้ว่าการไม่เลือกแท้ที่จริงก็คือการเลือกแบบหนึ่ง

เกิดเป็นคน ณ เวลาที่เชิดชูเสรีภาพสุด ๆ ก็แบบนี้แหละ การใช้เสรีภาพที่จะเลือกทางเลือกหลายอย่างในชีวิตเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและปนความเจ็บปวด ไม่ใช่การเลือกโดยเสรีจะทำให้เราดี๊ด้ามีความสุขไปเสียหมด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น