วันศุกร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2553

สันติวิธีไม่แพ้ -- ถ้านักสันติวิธีไม่ยอมแพ้

พี่น้องที่สมาทานแนวทางสันติวิธีท้อใจกับความรุนแรงที่เกิดต่อเนื่องในสังคมไทย และได้บ่นผ่าน FB มาให้ได้รับรู้ เลยขอตัดต่อคำตอบในประเด็นนี้มาให้ช่วยกันคิดต่อเกี่ยวกับสันติวิธีและนักสันติวิธี...

ความรุนแรงหลายระลอกที่ทำให้เกิดการเจ็บการตายในสังคมไทย ทำให้พี่น้องที่สมาทานแนวทางสันติวิธีท้อถอย ท้อใจ คิดว่าสันติวิธีพ่ายแพ้ และเจ็บปวดกับความพ่ายแพ้นั้น

อย่าลืมว่านักสันติวิธีไม่ใช้ความรุนแรงแม้เมื่อถูกกระทำความรุนแรง โดยจะยอมแบกรับทุกข์นั้นไว้เอง การแบกรับทุกข์เป็นอะไรที่ต้องฝึก ความโกรธเป็นธรรมดาของมนุษย์ และที่โกรธก็เพราะตัวตนถูกกระแทกกระทั้น ยิ่งมองตัวตนของตัวเองใหญ่หรือสำคัญ ก็ยิ่งโกรธปี๊ดได้ง่าย ความโกรธยังมาจากความกลัวด้วย กลัวว่าจะถูกทำร้ายเลยต้องทำร้ายเขาก่อน

คำถามน่าจะอยู่ที่จะทำอย่างไรกับความโกรธของตัวเองต่างหาก เมื่อโกรธแล้วก็อย่ายึดอยู่กับความโกรธ หรือปล่อยให้ความโกรธผลักดันการกระทำ โกรธแล้วไม่จำเป็นต้องใช้ความรุนแรง

ส่วนคนที่ท้อแท้เพราะใช้สันติวิธีแล้วคนก็ไม่ยอมกัน ยังใช้ความรุนแรงต่อกัน ถ้าท้อสิ่งที่แพ้คือตัวคุณเอง ไม่ใช่สันติวิธี เพราะท้อใจก็เลยปล่อยมือจากสันติวิธี

อย่าคิดใน mode แบบโปรดสัตว์เลย คือคิดว่าฉันทำดี ทำไมพวกแกไม่สำนึก อะไรประมาณนั้น ถ้าคนเหล่านั้นจะใช้ความรุนแรงกัน เราอาจสลดใจ แต่ไม่ควรท้อถอย อย่าลืมว่านักสันติวิธียอมจะแบบรับทุกข์ของการกระทำความรุนแรงไว้เอง

การเป็นนักสันติวิธีไม่ได้แปลว่าเรากลายเป็น God ที่ทุกอย่างจะดีไปได้อย่างใจ หรือกำกับควบคุมทุกอย่างไปได้หมด เมื่ออะไรไม่เป็นอย่างใจ ก็น่าจะพยายามเข้าใจ สงบใจ และวางอุเบกขาเสียบ้าง

บางทีคำถามทั้งหมดนี้มีคำตอบเดียวกัน คือการฝึกใจและตัวตนของนักสันติวิธีเอง ใจอย่าวูบไหว หรือวูบก็อย่าสั่นอยู่นาน ส่วนตัวตนก็ฝึกทำให้มันเล็กเสียบ้าง บางครั้งก็ให้อ่อนนุ่มเพื่อจะโอบรับความต่างและโหดร้ายของคนไว้ให้ได้

1 ความคิดเห็น: