วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เกมรุก VS. เกมรับ

Lilith ไปปิ้งหนุ่มคนหนึ่งเขาหละ ทั้งหล่อทั้งดีมีคุณภาพเลยที่เดียว แต่คุณหนุ่มคนนี้เธอดูจะเฉย ๆ อยู่นะ เห็นกันมาตั้งนานก็ไม่มีที่ท่าอะไรเลย Lilith พยายามจะส่งซิกทุกอย่างทั้งสายตาและคำพูดว่า “ฉันสนใจเธอมากกกกกก….นะ” หนุ่มคนนี้ก็ยังเฉย ๆ อยู่เหมือนเดิม แล้วมันยังไงกันนะ ไม่สนใจเราเลยหรือยังไง จะผ่านเลยไปหาเอาใหม่ดาบหน้าหรือก็เสียด๊าย…เสียดาย… ถ้ายังงั้นลุยเสียเลยดีไหม?

แต่การจีบกันนี่มีกติกาอยู่นะ กติกาข้อแรกคือผู้ชายต้องเป็นฝ่ายเริ่มจีบส่วนผู้หญิงก็สงบนิ่งอยู่ในที่ตั้งรอให้ผู้ชายเขาเป็นฝ่ายรุก ถ้าไม่เล่นตามกติกาก็มีการลงโทษเหมือนฟุตบอลเสียด้วย ทำให้เป็นอะไรที่เล่นยากชะมัด แถมเมื่อไม่สมหวังก็อาจเจ็บลึกปางตาย โอย...ยิ่งคิด ยิ่งน่ากลัวยังไงไม่รู้

เพราะอย่างนี้นี่เองที่ทำให้ Lilith ต้องคิดหน้าคิดหลังแปดตลบอยู่นั่นแหละ ก็ผู้หญิงไม่ควรเป็นฝ่ายเปิดเกมก่อนนี่น่า ขืนทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าอาจได้เปลี่ยนสปีชี่ส์จากคนกลายเป็นสัตว์ใหญ่ที่มีนอไป คิดๆดูแล้วยอมทำตามกติกาด้วยการนั่งรอให้ผู้ชายเป็นฝ่ายเริ่มต้นจะดีกว่า ปลอดภัยดี แต่สำหรับผู้ชายคนที่เราปิ๊งเขาเฉยๆ และทำท่าว่าจะไม่มีอะไรในกอไผ่กับเรา ซึ่งแปลว่าชายหนุ่มคงไม่เป็นฝ่ายเริ่มก่อนแน่นอน กรณีนี้เราจะทำอย่างไร ถ้าเป็นคุณ คุณจะตั้งมั่นเป็นฝ่ายรับรอการเปิดเกมจากผู้ชายต่อไป หรือจะเป็นฝ่ายกระโดดเข้าสู่เกมอันน่าตื่นเต้นนี้เสียเอง

แนวโน้มของการไม่ได้อย่างใจเมื่อคนที่เราสนใจทำท่าเฉยๆก็คือ เราจะยิ่งโหยหาอยากได้คนที่เราไม่ได้มากขึ้น คนที่ดูดีน่าสนใจอยู่แล้วก็ยิ่งดีเลิศประเสริฐศรีไปอีกคน เพราะดีๆถูกใจเราก็ไม่ใช่อะไรที่พบเจอได้ง่ายๆเสียด้วย เป็นไปได้ว่า อีก 10-20 ปี จากนี้เราอาจไม่ได้เจอใครแบบนี้อีกแล้ว และจะมีความสงสัยค้างคาอยู่ในใจว่า ถ้าตอนนั้นเรายอมเสี่ยงหน้าแตก แสดงความในใจให้ปรากฏชัดเจนกับหนุ่มน่ารักคนนั้นเสีย เขาอาจจะโอ.เค.จนมีความสัมพันธ์อันยืดยาว ทำให้ชีวิตเราสุขกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้ คนนี้อาจจะเป็นคนที่ดีที่สุดแล้วสำหรับเรา แต่เรากลับปล่อยให้โอกาสผ่านไป แล้วต้องไปลงเอยกับคนที่ดีน้อยกว่านี้ในอนาคต อย่ากระนั้นเลย เสี่ยงลุยเสียแต่ตอนนี้ดีกว่า จะได้รู้ไปว่าแท้ที่จริงคนคนนี้คิดอย่างไรกับเรา จะได้ไม่ต้องมานั่งสงสัยในอนาคต

นอกจากนี้อาการวางเฉยของผู้ชายก็มีความหมายได้หลายอย่างนะ คุณหนุ่มคนนั้นเธออาจจะขี้อายไม่กล้าเริ่มต้นก่อนก็ได้ ผู้ชายจำนวนมากกลัวการถูกปฏิเสธจากผู้หญิง คือยอมรับอาการ “แห้ว” ไม่ค่อยได้ เพราะกลัวเสียใจ กลัวเสียหน้า หรือเสียความเชื่อมั่นในตัวเองมากบ้างน้อยบ้าง คงนึกออกนะว่าถ้าคนที่เราสนใจเขาตอบกลับมาว่า “ฉันไม่ชอบเธอหรอก” (หรือจะให้นุ่มนวลกว่านั้นก็อาจจะบอกว่า “เราเป็นเพื่อนกันก็ดีแล้วนี่นะ” อย่าเป็นอย่างอื่นเลย แต่ผู้สันทัดกรณีคนหนึ่งบอกว่า ถ้าตอบอย่างนุ่มนวลอย่างนี้ยังพอมีหวังนะ เพราะไม่ได้ตัดให้ขาดสะบั้นไปเลยทีเดียว) เราจะรู้สึกอย่างไร คงทั้งเซ็งทั้งเศร้าใช่ไหม
อาการเฉย ๆ ค่อนไปทางบื้อของผู้ชายอาจจะเป็นเพราะความไม่รู้ ซึ่งมีรากฐานมาจากความไม่ค่อยฉลาดและ/หรือไม่ค่อยเฉลียวของผู้ชายคนนั้นก็ได้อีกนั่นแหละ ผู้ชายบางคนดูไม่ออกจริง ๆ ว่าผู้หญิงมีทีท่าหรือสนใจ เพราะไม่คุ้นเคยกับท่าทีของผู้หญิงหรือเอาแต่อ่านผู้หญิงจากวิธีคิดของผู้ชาย มองผู้หญิงเหมือนมองผู้ชายที่เป็นเพื่อนเลยอ่านมารยาหญิงไม่ค่อยออกหรือตีความผิดไป บางคนอาจจะเป็นเอามากถึงขนาดว่าผู้หญิงทิ้งผ้าเช็ดหน้าเพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ (แปลว่าอ่อยน่ะ) ก็ยังอุตส่าห์เดินข้ามหรือเหยียบผ้าเช็ดหน้านั้นเสียได้ อย่างนี้ก็มี

สรุปก็คือการที่ผู้ชายวางเฉยต่อความสนใจของเรามีความหมายได้หลายอย่างที่อาจจะไม่ใช่การปฏิเสธเราเสียทีเดียวก็ได้ เมื่อบวกกับความเสียดายว่าคนนี้อาจจะดีที่สุดในชีวิตนี้แล้วก็ได้ (อะไรที่ไม่ได้มาก็มักจะมีค่ามากอย่างนี้แหละ) ทำให้ผู้หญิงบางคน เช่น Lilith เป็นต้น มุมานะเล่นบทฝ่ายรุกบ้างเพื่อไม่ให้เสียโอกาสในชีวิต และจะได้ไม่ต้องมีอะไรค้างคาใจต่อไป

ผลลัพธ์ของการรุกเป็นไปได้หลายอย่าง บางทีก็เป็นแฮปปี้เอ็นดิ้งได้เหมือนกัน เพราะฝ่ายหนุ่มรู้สึกประทับใจและมีค่าเมื่อผู้หญิงเป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อน หรือบางหนุ่มอาจจะมีใจอยู่บ้างแล้ว การรุกของฝ่ายหญิงจึงทำให้อะไร ๆ ง่ายขึ้น

แต่ในอีกหลาย ๆ กรณีเรื่องจบลงอย่างเศร้าแกมสยดสยอง เมื่อผู้ชายไม่เล่นด้วยไม่ว่าจะเป็นเพราะไม่สนใจผู้หญิงคนนั้นจริง ๆ หรือเพราะเหตุอื่น ๆ ระดับความเศร้าจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับวิธีการโต้ตอบหรือปฏิเสธของผู้ชาย แต่ก็มีสาว ๆ หลายคนที่เคยเล่นบทฝ่ายรุกบอกว่าไม่ว่าผู้ชายจะปฏิเสธอย่างนุ่มนวลน่ารักขนาดไหน ก็เศร้ามากอยู่ดี เพราะรู้สึกทั้งเสียใจและไร้ค่า อาการแห้วไม่ว่าจะเพราะอะไรและอย่างไรทำให้เราเจ็บทั้งนั้น

หนุ่ม ๆ หลายคนไม่ชอบและรับไม่ได้กับการเป็นฝ่ายรุกของผู้หญิง พวกนี้ชอบเล่นอยู่ในเกมที่กำหนดชัดเจนว่าใครควรจะทำอะไร เกมการจีบกันที่เราคุ้นเคยกำหนดให้การเริ่มต้นจีบหรือการแสดงความสนใจเป็นเรื่องของผู้ชาย โดยบอกเราว่าผู้หญิงต้องทำตัวให้น่ารักน่าปรารถนาเพื่อให้ผู้ชายสนใจ เรายังเชื่อด้วยว่าสิ่งสำคัญสำหรับผู้หญิงคือการเลือก โดยผู้หญิงต้องเลือกคนดี ๆ จากบรรดาคุณผู้ชายที่มาแสดงความสนใจหรือรุมจีบ แต่ถ้าคิดให้ดี ๆ ก็น่าสงสัยนะว่าใครเป็นฝ่ายเลือกใครกันแน่ โดยบทบาทของการเป็นฝ่ายเริ่มต้นผู้ชายเป็นฝ่ายเลือกว่าจะจีบหรือไม่จีบใคร ผู้ชายต่างหากที่เป็นฝ่ายเลือกผู้หญิง โดยผู้หญิง (บางคน) อาจจะมีโอกาสได้เลือกผู้ชายบ้างจากกลุ่มคนที่เดินเข้ามาหาหรือมาจีบเท่านั้น ซึ่งโดยทั่ว ๆ ไปไม่น่าจะมากนัก และเป็นการเลือกหลังจากที่ผู้ชายเขาได้เลือกก่อนแล้วว่าจะจีบหรือไม่จีบเรา

อย่าลืมว่าผู้หญิงทุกคนไม่ได้เจ้าเสน่ห์ไปหมด บางคนรอทั้งชาติก็ไม่มีคนมาจีบ พอมีหลงมาสักคนก็ต้องรีบคว้าไว้ไม่เช่นนั้นก็ต้องสถิตย์อยู่บนคานทองนิเวศน์ตลอดไป สาว ๆ ส่วนใหญ่น่าจะเป็นพวกไม่มีโอกาสได้เลือกอย่างนี้เสียมากกว่า แต่เป็นฝ่ายรอว่าอะไรก็ตามที่พลัดหลงเข้ามาก็ต้องคว้าไว้ และคนที่หลงเข้ามาก็อาจจะไม่ใช่คนที่เราพออกพอใจ แต่ต้องทำใจให้ชอบเพราะอาจจะไม่มีใครหลงเข้ามาอีก (อ่านแล้วเวียนหัวไหม?)

แต่การฮึดของสาวบางคนที่จะเพิ่มช้อยส์ให้ตัวเองด้วยการเล่นบทรุก อาจจะทำให้หนุ่ม ๆ ที่เป็นเป้าหมายตกใจกลัวและเผ่นป่าราบไปมากกว่าที่จะต่อไมตรีด้วยเผื่อจะเวิร์ค หนุ่มพวกนี้หลงติดอยู่กับภาพของนางในฝันประเภทสาวน้อยแสนหวาน เรียบร้อยขี้อายเป็นฝ่ายรับหรือช้างเท้าหลังที่ดีอะไรทำนองนั้น พอมาเจอผู้หญิงเป็นฝ่ายรุกก็ต้องตกอกตกใจบ้างเป็นธรรมดา แล้วพาลมองว่ายายคนนี้ท่าจะไม่ใช่ผู้หญิงดีๆกระมัง จึงได้มาไล่ล่าผู้ชายขนาดนี้ แล้วก็ลุกขึ้นวิ่งหนีไปตามฟอร์ม

และด้วยความกลัวนี้เองทำให้ผู้ชายที่ถูกผู้หญิงจีบบางคนโต้ตอบด้วยท่าทีไม่น่ารักหรือถ้อยคำที่รุนแรง ก็เขาคิดว่าผู้หญิงที่เป็นฝ่ายรุกไม่น่าจะเป็นคนดีนัก เพราะไม่เล่นตามกฎกติกามารยาทของการจีบกันนี่น่า สาวๆที่อุตส่าห์รวบรวมความกล้าเปิดเกมกับหนุ่มที่ตัวเองสนใจก่อนเลยต้องเศร้าสนิท เมื่อถูกตัดไมตรีอย่างไม่เหลือเยื่อใยด้วยคำพูดที่แปลได้ว่า “ผมไม่สนใจ อย่างมายุ่งกับผม” ...แค่คิดก็เศร้าแล้วเนอะ

สาวๆที่เจออะไรทำนองนี้พยายามเข้าใจชายหนุ่มขี้กลัวพวกนี้หน่อยแล้วกัน ถ้าเอาใจเขามาใส่ใจเราสักนิด คงพอเข้าใจได้ว่าการเจอกับอะไรที่เราไม่คุ้นเคยนี้ทั้งอึดอัดและน่ากลัวนะ พอผสมเข้ากับความไม่ชอบไม่พิศวาทคนที่เริ่มรุกเข้าไปอีกเลยยิ่งไปกันใหญ่ สาว ๆ ทั้งหลายก็คงจะเคยร้ายกาจกับหนุ่มที่ตัวเองไม่ชอบแล้วมาตามจีบอยู่เหมือนกันใช่ไหม?

ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือการที่หนุ่มเหล่านี้มองสาวนักรุกเป็นผู้หญิงไม่ดี และอาจจะกระจายข่าวป่าวประกาศความไม่ดีให้เป็นที่รู้ทั่วกันเสียอีกด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับความห่ามของสุนัขที่ตั้งรกรากอยู่ในปากของเขาคนนั้น ถ้าบังเอิญโชคร้ายไปเจอเอาหนุ่มที่ทั้งขวัญอ่อนและปากมากก็ต้องทำใจว่าเราไม่เคารพกฎกติกาของเกมนี้ ก็เลยต้องโดนลงโทษเข้าให้บ้าง การถูกมองไม่ดีก็เป็นการลงโทษอย่างหนึ่ง ถ้าไม่ใจถึงพอก็อย่าหลุดออกนอกกรอบมาเล่นเกมรุกเป็นอันขาด เจ็บตัวเจ็บใจเปล่า ๆ เล่นตามกติกาต่อไปรอลูกฟลุ้คเอาก็แล้วกัน

อ่านมาถึงตรงนี้คนที่กำลังอินเลิฟและอยากจะเพิ่มโอกาสให้กับตัวเองอาจจะห่อเหี่ยวหมดกำลังใจไปแล้ว อย่าเพิ่งกลัวนะคะ…ของอย่างนี้ไม่ลองก็ไม่รู้ แต่ก่อนจะลองก็ถามตัวเองให้ดี ๆ ก่อนว่าเราอึดพอที่จะรับความเจ็บนานาประการที่จะเกิดขึ้นถ้าหนุ่มเขาบังเอิญไม่เล่นด้วยหรือเปล่า และหนุ่มคนนั้นคุ้มค่าความเสี่ยงต่อการเจ็บตัวเจ็บใจนี้หรือเปล่า ของอย่างนี้ไม่มีใครบอกใครหรือคิดแทนกันได้หรอก คุณเองนั่นแหละรู้คำตอบดีที่สุด ถ้าเกมรุกของคุณประสบความสำเร็จคุณคงจะแฮปปี้พอควร จะสุขมากสุขน้อยก็ต้องขึ้นอยู่กับโชคชะตาแล้ว
แต่ก็อย่าลืมเตือนตัวเองว่าอะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้ในโลกนี้ ถ้าบังเอิญเรื่องของเราจะกลายเป็นโศกนาฏกรรมประดับโลกนี้อีกหนึ่งเรื่องก็ถือเสียว่าโชคไม่ดีก็แล้วกัน และต้องรับกับผลของการไม่เล่นตามกฎด้วย

จะว่าไปแล้วการเล่นเกมรุกนี่ก็ไม่ใช่อะไรที่ทุกคนทำได้หรือเหมาะกับทุกคนหรอก ต้องคนกระดูกแข็ง ๆ ความอดทนมาก ๆ และพอมองเห็นถึงความเสี่ยงและราคาของการแหกกฎเท่านั้นที่พอจะเล่นได้โดยไม่บอบช้ำเกินไป เรื่องนี้คงต้องไปประเมินกันเอาเองนะ
หลังจากตรวจสอบตัวเองดี ๆ แล้ว คุณอยากจะเล่นเกมรุกหรือเกมรับกันคะ ว่าง ๆ ก็เล่าให้ Lilith ฟังบ้างแล้วกัน…

2 ความคิดเห็น:

  1. พออ่านบทความของอาจารย์จบก็ทำให้นึกถึงสำนวนที่เพิ่งได้ยินมา

    ได้ไปร่วมงานสัมมนาญี่ปุ่นศึกษามา และได้คุยกับคนไทยที่ไปเรียนปริญญาเอกที่ญี่ปุ่น เขาเล่าใฟ้หังว่าเพิ่งมีสำนวนใหม่มาปีสองปีนี้เองในญี่ปุ่น ว่า "ผู้หญิงกินเนื้อ ผู้ชายกินผัก" คือ ผู้หญิงออกล่าหาผู้ชาย เป็นฝ่ายจีบ ผู้ชายก็เป็นฝ่ายไม่กล้าจีบ รอให้ผู้หญิงเข้ามาจีบ ถ้าผู้หญิงที่เขาชอบไม่เข้ามาจีบ ก็รอ แล้วก็ลุ้น

    แค่คิดดูก็คิดว่า เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการจีบกันที่พัฒนาไปจนมีสำนวนที่น่าสนใจดี และผมว่า การเป็นคนโดนจีบบ้างบางทีก็มีความสุขดีนะ เพราะว่ามันเขินดี 555

    ตอบลบ
  2. อ่านบทความนี้แล้วก็ อื้มมมมมม...ทำไมมันช่างตรงกับชีวิตเราตอนนี้ขนาดนี้น้า55 ^^

    ตอบลบ